‘ออสการ์ ราเอส อินแคลร์ทูส รอซ ฟาลซัส’ ทายาทลำดับที่หนึ่ง และเจ้าชายแห่งราชวงศ์ฟาลซัส ผู้ครอบครอง ‘อาคาเซีย’ ดาบราชันซึ่งสืบทอดกันมาในราชวงศ์
ตำนานเล่าว่ามันคือดาบที่ผู้ซึ่งไม่ใช่มนุษย์ดึงออกมาจากทะเลสาบ ส่วนรายละเอียดอื่นนั้นไม่มีผู้ใดทราบแน่ชัด ดาบราชันเล่มนี้มีอยู่มาตั้งแต่สมัยก่อตั้งอาณาจักร ที่ผ่านมามันไม่ได้ถูกนำมาใช้จริงในการต่อสู้ เป็นเพียงดาบที่กษัตริย์พกติดตัวไปในพิธีต่างๆ เท่านั้น ทว่าออสการ์กลับนำมันมาใช้ในฐานะดาบตามปกติเหมือนเป็นสมบัติของตัวเอง ครั้งแรกที่แม่มดจันทราคราม ‘ทีนาชา’ เห็นดาบเล่มนี้ก็ตกใจไม่น้อย เพราะมันเป็นดั่ง ‘ศัตรูฟ้าประทาน’ สำหรับนักเวท ไม่เว้นแม้แต่เธอเช่นกัน
เหตุที่ออสการ์และทีนาชาได้พบกัน นั่นเพราะเขาต้องการให้เธอช่วยแก้คำสาปที่ถูก ‘แม่มดแห่งความเงียบ’ สาปพร้อมพระบิดา เมื่อสมัยที่ตนยังอายุได้เพียงห้าขวบ
“เจ้าจะไม่สามารถมีบุตรได้อีก รวมถึงบุตรชายของเจ้าที่อยู่ตรงนั้นเช่นกัน เลือดของพวกเจ้าจะกัดกร่อนทำลายช่องท้องของสตรีทุกคน ราชวงศ์ฟาลซัสจักต้องจบสิ้นในรุ่นของเจ้า!”
เวลาผ่านไปสิบห้าปีแล้วแต่ออสการ์ก็ยังหาทางแก้คำสาปไม่ได้ จึงคิดจะไปขอให้แม่มดจันทราครามช่วย แต่การจะเข้าพบเธอไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องขึ้นไปยังชั้นบนสุดของหอคอยโดยเสี่ยงชีวิตผ่านด่านที่เต็มไปด้วยอันตรายมากมาย
แม่มดจันทราคราม หรือ ‘ทีนาชา’ มีอสูรรับใช้ชื่อ ‘ริโทล่า’ รูปลักษณ์เป็นเด็กตัวเล็กอายุประมาณห้าหรือหกขวบ ดวงตาสีฟ้าอ่อน ผมสีขาวยาวประบ่า ใบหน้างดงามทว่าดูไร้อารมณ์ ไม่ทราบเพศแน่ชัด น้ำเสียงสัมผัสถึงอารมณ์ความรู้สึกไม่ได้ทำให้ชวนนึกถึงหุ่นหรือตุ๊กตา
ออสการ์สามารถฝ่าฟันไปจนถึงยอดหอคอยที่ทีนาชาอาศัยอยู่ได้ในที่สุด ทว่าเมื่อทีนาชาได้รับคำขอร้องจากออสการ์ให้ช่วยแก้คำสาป เธอกลับมีทีท่าหนักใจ
“...‘คำสาป’ นั้นไม่ใช่สิ่งที่จะแก้ได้เสมอไปหรอกค่ะ” ทีนาชากล่าวกับออสการ์
‘เวทมนตร์’ ทั้งหมดทั้งมวลจะทำงานผ่านโครงสร้างอันมีพื้นฐานมาจากกฎเกณฑ์ที่มีร่วมกัน แต่ ‘คำสาป’ นั้นไม่มีกฎเกณฑ์ สิ่งที่เรียกว่าภาษา…มันไม่ใช่เพียงถ้อยคำ แต่รวมถึงการถ่ายทอดในรูปแบบอื่นๆ เช่น ท่วงท่าการเคลื่อนไหวด้วย
‘คำสาป’ คือการกำหนดคำจำกัดความของถ้อยคำที่ต้องการด้วยตนเองแล้วจึงใส่พลังเวทลงไป แน่นอนว่ามีความแตกต่างกันออกไปตามผู้ร่ายคำสาปด้วย… หากตอนที่ร่ายคำสาปไม่ได้กำหนดวิธีการถอนคำสาปไว้ แม้แต่ตัวผู้ร่ายคำสาปเองก็ไม่สามารถถอนคำสาปได้
‘คำสาป’ ไม่ใช่พลังที่สามารถฆ่าคนได้โดยตรง เพียงแต่ส่งผลทางอ้อมเท่านั้น… จึงไม่ใช่สิ่งที่เราจะหลีกเลี่ยงไม่ได้
‘พร’ และ ‘คำสาป’ จะใช้วิธีเดียวกันในการร่าย แต่ทิศทางของพลังจะแตกต่างกัน มันคือการกระตุ้นพลังที่มีอยู่แล้วตั้งแต่เริ่ม ดังนั้นยิ่งปริมาณพลังของผู้ร่ายมีมากเท่าไร พลังนั้นก็จะยิ่งกล้าแกร่ง
ในบางครั้ง ‘พร’ อาจเป็น ‘คำสาป’ เฉกเช่น ‘คำสาป’ ก็สามารถกลายเป็น ‘พร’ ได้เช่นกัน กล่าวคือ หากพรนั้นไม่ใช่สิ่งที่ผู้ได้รับปรารถนา มันก็จะทำหน้าที่ไม่ต่างจากคำสาป แต่หากคำสาปเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ได้รับยินดี หรือช่วยปกป้องผู้ได้รับจากภยันตราย มันก็ไม่ต่างอะไรกับการได้รับพรอันมีค่านั่นเอง
การที่ออสการ์ถูกสาปดูเหมือนจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังซ่อนอยู่ เพราะมันอาจเกี่ยวพันกับการหายตัวไปของพวกเด็กๆ รวมถึงเชื้อพระวงศ์ที่อายุน้อยกว่าออสการ์ในเวลานั้น แถมหลังจากทีนาชายอมลงจากหอคอยมาพักอาศัยที่ปราสาทของออสการ์ได้ไม่นานก็เกิดเหตุฆาตกรรมขึ้นในเมือง
จากที่เธอกำลังสนุกสนานกับชีวิตใหม่ด้านล่างหอคอย ทีนาชากลับต้องมาร่วมสืบคดีปริศนา เพื่อช่วยตนเองให้พ้นจากการถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ร้าย และเหตุฆาตกรรมในครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความวุ่นวาย ที่อาจเกี่ยวข้องกับปมในอดีตของออสการ์!?
รวมทั้ง ‘ชายผู้อาจเรียกได้ว่าเป็นโชคชะตา’ ของทีนาชาที่เธอกำลังตามหาอยู่คือใคร! ติดตามได้ใน Unnamed Memory นิยายแฟนตาซีโรแมนติก ระหว่างแม่มดจันทราครามกับกษัตริย์ผู้ต้องสาป สั่งซื้อสินค้าคลิก