PSYCHO-PASS: Providence แอนิเมชั่น "ปรัชญา-ไซไฟ" ที่อยากให้ทุกคนดู

PSYCHO-PASS คืออีกหนึ่งสุดยอดอนิเมะที่สร้างตำนานครั้งแรกเมื่อปี 2012 ด้วยเนื้อหาที่ลึกซึ้งเข้าถึงยาก ผสานความดีปและดาร์กในธีมโลกอนาคตที่มีระบบปราบปรามอาชญากรรมโดยวัดผลผ่านคลื่นสมอง แล้ววิเคราะห์เป็นตัวเลขที่เรียกว่า PSYCHO-PASS ตามชื่อเรื่อง

 

และใน PSYCHO-PASS: Providence จะเล่าถึงเหตุการณ์หลังจบภาค 3 และจะนำตัวละครหลักจากภาคแรกกลับมาเป็นตัวละครหลักกันทุกคน ทั้งคู่พระนางอย่าง โคงามิ ชินยะ และ สึเนโมริ อาคาเนะ หรือเหล่าทีมปฏิบัติการ กิโนสะ, ชิออน, ยาโยอิ ก็กลับมาเช่นกัน ซึ่งฟลามิงโกรีวิวในคราวนี้ก็จะมารีวิวความดีงามของ PSYCHO-PASS: Providence แบบจัดเต็มแบบไม่สปอยเนื้อหาสำคัญใดๆ

 

PSYCHO-PASS: Providence ฉายวันที่ 21 กันยายนนี้ ในโรงภาพยนตร์ 

 

เพลงเปิดและเพลงปิดโดยนักร้องที่คุ้นเคย

PSYCHO-PASS: Providence มีเพลงเปิดในชื่อ Alexithymia Spare โดย Ling tosite sigure เจ้าเดิมที่เคยร้องเพลงเปิดในภาคแรกอย่าง Abnormalize 

 

 

และมีเพลงปิดในชื่อ Touzisya โดย Chelly แห่ง EGOIST และ Ryo แห่ง Supercell ที่เคยร้องเพลงปิดในภาคแรกอย่าง Namae No Nai Kaibutsu

 

 

ฉากการต่อสู้ที่ดีที่สุดเท่าที่แอนิเมชั่นจะทำได้

ถ้าพูดถึง PSYCHO-PASS คงหลีกเลี่ยงเรื่องความรุนแรงไม่ได้ แต่ทว่าในภาพยนตร์เรื่องนี้กลับเลือกที่จะนำเสนอในรูปแบบฉากแอคชั่นแทนความรุนแรงที่ไม่จำเป็น ทุกฉากที่มีการต่อสู้ระยะประชิดคือความเอาใจใส่ของทีมงานที่ไม่มีทางได้เห็นในแอนิเมชั่นเรื่องไหนแน่นอน ทั้งการต่อสู้มือเปล่า หรือการใช้อาวุธ ทุกฉากทุกตอนทำออกมาได้ดีไร้ที่ติ

 

 

อาวุธสุดเท่ Dominator

แน่นอนว่าหนึ่งในอาวุธชูโรงของ PSYCHO-PASS ก็คือ Dominator ปืนสุดเท่ที่เปลี่ยนโหมดได้ตามค่าอาชญากรรมของผู้ที่ถูกเล็ง แม้ว่าจะถูกใช้งานแค่ไม่กี่ฉากในเรื่อง แต่ก็ได้เห็นถึงความเท่จนอยากได้มาครอบครองเลย ซึ่งก็มีทำออกมาขายด้วยนะ!?

 

 

ปรัชญาและคำคมที่ไม่ได้ใส่มาเพื่อแค่เอาเท่

คนที่เคยดู PSYCHO-PASS ภาคเก่าๆ จะทราบดีว่าอนิเมะเรื่องนี้ชอบใส่คำคมและปรัชญามาเป็นแก่นของเรื่อง ทั้งปรัชญาการปกครอง ทฤษฎีโครงสร้างสังคม และใน PSYCHO-PASS: Providence จะยิ่งมีความเป็นการเมืองมากขึ้น และมีการอ้างอิงถึงพระคัมภีร์ในศาสนาคริสต์ แต่ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่เข้าใจ เพราะไม่ใช่ส่วนสำคัญของเนื้อเรื่อง แต่เป็นส่วนขยายเพื่อทำความเข้าใจความคิดและ Mindset ของตัวละครนั้นๆ

 

 

“ความถูกต้องจะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เพราะความถูกต้องเป็นสิ่งสัมพัทธ์แต่ความจริงเป็นสิ่งสัมบูรณ์ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้”

 

การเติบโตของตัวละครที่คาดไม่ถึง

ในภาคนี้เราจะได้เห็นการเติบโตของตัวละครอย่างคาดไม่ถึง โดยเฉพาะตัวเอกอย่าง สึเนโมริ อาคาเนะ ที่โลกสวยน้อยลง และ โคกามิ ชินยะ ที่ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้น บอกเลยว่าพัฒนาการสองคนนี้สวนทางกันสุดๆ และยังมีโมเม้นท์คู่พระนางให้คนดูได้แอบอมยิ้ม รวมถึงการสร้างปมที่หนักหน่วงให้กับตัวละครหลักทุกคนจากทุกภาค จนเล่นเอาซะอยากดู Season 4 เลย! ดังนั้นทุกคนต้องไปดูกันเยอะๆ นะ!! 21 กันยายนนี้ที่โรงภาพยนตร์ที่ร่วมรายการ