ขอให้รักเรานี้ได้มีความสุข หรือในชื่อภาษาอังกฤษ My happy marriage เดิมเป็นนิยายที่เขียนโดยอาจารย์ Akumi Agitogi และวาดภาพประกอบโดยอาจารย์ Tsukiho Tsukioka สำนักพิมพ์ Fujimi Shobo ในเครือ KADOKAWA เมื่อปี 2019 ก่อนจะถูกดัดแปลงเป็นมังงะ (หนังสือการ์ตูน) ในปี 2019 ตามด้วยภาพยนตร์ออกฉายในเดือนมีนาคมปี 2023 (ประเทศญี่ปุ่น) และอนิเมชั่นในเดือนกรกฎาคมปี 2023 ตามลำดับ ปัจจุบันทั้งฉบับนิยายและมังงะเป็นลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์ PHOENIX มังงะออกมาแล้ว 3 เล่ม ส่วนฉบับนิยายเล่ม 5 มีกำหนดวางจำหน่ายปลายเดือนมิถุนายนนี้
@watakon_movie
เรื่องย่อ ขอให้รักเรานี้ได้มีความสุข My happy marriage
เรื่องราวของไซโมริ มิโยะ ที่เกิดมาในตระกูลผู้มีพลังพิเศษ แต่กลับไม่ได้สืบทอดพลังมาด้วย หลังแม่เธอเสียชีวิตและพ่อแต่งงานใหม่ เธอก็ถูกน้องสาวต่างแม่กลั่นแกล้ง อีกทั้งยังไม่ได้รับความรักจากพ่อ เป็นเด็กที่ไม่มีใครต้องการ
แม้แต่เพื่อนสมัยเด็กที่เป็นพวกพ้องเพียงหนึ่งเดียว ก็ยังถูกกำหนดให้แต่งงานกับน้องสาวเพื่อสืบทอดตระกูล
มิโยะที่กลายเป็นส่วนเกินของบ้านต้องออกเรือน ไปแต่งงานกับคนตระกูลคุโดซึ่งมีข่าวลือว่าเลือดเย็นไร้หัวใจ และได้แต่ภาวนาให้ชีวิตใหม่ของเธอจะมีแต่ความสุข
ภาพยนตร์ที่คอหนังญี่ปุ่นหรือสายอนิเมะไม่ควรพลาด
คิดว่าแฟนนิยายหรือมังงะคงทราบดีกันอยู่แล้วว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์แบบที่เราเรียกกันว่า Live Action หรือก็คือภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากสื่ออื่นๆ อีกทีหนึ่งอย่างที่น้องนกได้ให้ข้อมูลเอาไว้ในตอนต้น ดังนั้นเพื่อนๆ คนไหนที่เป็นคอหนังเพียวๆ และไม่ได้ติดตามการ์ตูนเลยอาจจะมีความกังวลว่า เอ…แล้วฉันจะดูรู้เรื่องมั้ย? จะอินกับหนังหรือเปล่า? ต้องทำการบ้านมาก่อนมั้ย?
ส่วนตัวแล้วน้องนกคิดว่าด้วยเนื้อหาและเซ็ตติ้งของหนังเรื่องนี้ที่ไม่ได้เฉพาะเจาะจงไปที่แฟนกลุ่มใดเป็นพิเศษ ทำให้หนังมีความเข้าถึงได้ง่าย หากเพื่อนๆ แค่อยากดูหนังญี่ปุ่นสักเรื่อง หนังเรื่องนี้ก็สามารถตอบโจทย์นั้นได้ หรือหากเพื่อนๆ เป็นแฟนการ์ตูนที่อยากเปรียบเทียบว่าหนังกับต้นฉบับมีความคล้ายคลึงกันมากแค่ไหน หนังเรื่องนี้ก็สามารถตอบโจทย์เพื่อนๆ ได้เช่นกัน ถ้าจะให้น้องนกยกตัวอย่างก็คงคล้ายๆ กับภาพยนตร์ซามูไร พเนจร Rurouni Kenshin ที่ตัวภาพยนตร์เองได้ถ่ายทอดเรื่องราวที่ต้องการจะสื่อกับคนดูอย่างครอบคลุมแล้ว และถ้าหากเพื่อนๆ คนไหนต้องมนต์สะกดจากภาพยนตร์เรื่องนี้ก็สามารถไปติดตามเรื่องราวอย่างละเอียดได้ในต้นฉบับนั่นเอง
@watakon_movie
โปรดักชั่นสุดอลังการที่จะพาทุกคนย้อนกลับไปในยุคญี่ปุ่นโบราณ
ต้องเอ่ยปากชมเลยว่าโปรดักชั่นของเรื่องนี้อลังการมากๆ เหมือนพาเราย้อนเวลากลับไปอยู่ในยุคโบราณเลย และไม่ได้นำเสนอเพียงสถานที่สำคัญๆ อย่างบ้านพักของตัวละครหลักเท่านั้น แต่นำเสนอภาพรวมของสังคมญี่ปุ่นในยุคสมัยเมจิ-ไทโช บ้านรามตรอกซอย ร้านค้า ร้านคาเฟ่ให้ผู้ชมได้เข้าใจถึงบริบทและวัฒนธรรมในยุคสมัยดังกล่าวมากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ฉากแฟนตาซีที่ต้องอาศัย CG ต่างๆ ก็ทำมาได้กลมกลืนกับตัวหนัง หากจะให้พูดถึงความน่าเสียดายก็คงมีตรงที่ฉากเล่นใหญ่ค่อนข้างน้อยไปนิด แต่ก็ไม่แน่ว่าทางทีมงานอาจจะอยากเก็บเอาไว้ใช้สำหรับภาพยนตร์ภาคต่อก็เป็นได้? (แต่ปัจจุบันยังไม่มีการประกาศภาคต่อออกมานะ)
@watakon_movie
จัดเต็มทีมนักแสดงที่เคมีเข้ากันสุดๆ!
คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเคมีระหว่าง Ren Meguro (Kiyoka Kudou) และ Mio Imada (Miyo Saimori) นี่แหละที่สะกดให้เราละสายตาไปจากจอไปไม่ได้ โดยเฉพาะการแสดงบทบาทของคนที่แอบเป็นห่วงอยู่นะจ๊ะ แต่ไม่กล้าบอกเธอตรงๆ ของคุณท่าน Ren Meguro (Kiyoka Kudou) ที่โผล่มาทีไรก็ทำเราแอบอมยิ้มเล็กๆ อยู่เสมอ จนเหมือนเป็นฉากที่ช่วยคลายบรรยากาศตึงเครียดในเรื่อง และ Mio Imada (Miyo Saimori) ที่ต้องยอมรับเลยว่าเธอเล่นฉากดราม่าเรียกน้ำตาได้ดีมากๆ ที่น้องนกประทับใจที่สุดก็คือฉากระหว่าง Miyo และแม่แท้ๆ ของเธอที่เสียไปแล้ว เพราะแม้แอร์ไทม์ของทั้งสองจะน้อยมากๆ แต่อิมแพ็กจนน้ำตาซึมกันเลยทีเดียวเชียว
และขอเสริมอีกนิดว่านอกจากนักแสดงหลักแล้ว ทีมนักแสดงรองเองก็ทำได้ดีมากๆ ไม่แพ้กัน อย่างเหล่าลูกน้องใต้บังคับบัญชาของ Kiyoka Kudou ที่เราจะเห็นว่ามีคนเยอะมากกกก แต่ในภาพยนตร์ก็ใส่เอกลักษณ์ของแต่ละคนเอาไว้จนผู้ชมอย่างเราๆ สามารถจดจำบทบาทของพวกเขาได้ในระยะเวลาสั้นๆ แถมบางฉากก็ได้ตัวละครเหล่านี้นี่แหละที่มาขยี้หัวใจคนดูไม่แพ้กับตัวละครหลักเลย!
@watakon_movie
ประทับใจจนต้องหานิยายต้นฉบับมาอ่านต่อ
น้องนกเป็นคนหนึ่งที่พอออกจากโรงปุ๊บ ก็ออกมาไถหานิยายต้นฉบับต่อเลยเพราะอยากรู้ว่าภาพยนตร์หยิบเนื้อหาตรงส่วนไหนของนิยายมาดัดแปลงบ้าง ซึ่งก็ต้องบอกกันตรงๆ ว่าด้วยระยะเวลาที่จำกัด ทำให้ภาพยนตร์ต้องเลือกลดทอนรายละเอียดบางส่วนจากในนิยายไปเป็นธรรมดา แต่ก็มีรายละเอียดที่พอตัดออกไปแล้วก็ทำให้เราเข้าใจตัวละครนี้ๆ คลาดเคลื่อนไปจากต้นฉบับ อย่างบทบาทของตัวละคร Arata Tsuruki (Keisuke Watanabe) ที่ไม่ได้เพียงเออออตามกฎของวงศ์ตระกูลเสียทุกเรื่อง แต่มีเหตุผลที่เขาอยากปกป้อง Miyo ด้วยเจตนารมณ์ของตนเองด้วย ดังนั้นหากเพื่อนๆ คนไหนอยากรู้จักกับโลกของขอให้รักเรานี้ได้มีความสุข My Happy Marriage มากขึ้น นิยายต้นฉบับก็คงตอบโจทย์นั้นที่สุด โดยนิยายต้นฉบับของเรื่องนี้ก็วางจำหน่ายออกมาแล้วทั้งหมด 4 เล่ม (เล่ม 5 วางแผงปลายเดือนมิ.ย.) เล่มไม่หนามาก ภาษาก็เข้าใจง่าย ยิ่งถ้ากำลังอินกับภาพยนตร์อยู่แบบน้องนก ยิ่งอ่านเร็วมากๆ แค่ไม่กี่ชั่วโมงก็จบไปหลายบทแล้ว (ฮา)
ดูนิยายและมังงะ ขอให้รักเรานี้ได้มีความสุข My Happy Marriage ได้ ที่นี่
สรุปความดีงามของขอให้รักเรานี้ได้มีความสุข My happy marriage
ถือเป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่หากน้องนกมีโอกาสได้ไปดูอีกครั้งก็จะไปดูอีกโดยไม่ลังเล เพราะนอกจากภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นภาพยนตร์ Live Action ที่ดีเกินคาดแล้ว ก็ยังเป็นภาพยนตร์ที่ดี ครบทุกรสชาติเหมาะกับผู้ชมทุกกลุ่มอีกด้วย อย่างไรสิบปากว่าก็ไม่เท่าตาเห็น อย่าลืมไปพิสูจน์ความดีงามของภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยตัวคุณเองในโรงภาพยนตร์ใกล้บ้านเด็ดขาดนะ!
My happy marriage ขอให้รักเรานี้ได้มีความสุข มีกำหนดฉาย 22 มิ.ย.นี้
@watakon_movie