
Maboroshi แปลตรงตัวได้ว่าภาพมายาหรือภาพลวงตา เป็นคำศัพท์ที่มักจะพบเห็นในการ์ตูนแนวแฟนตาซีอยู่บ่อยๆ ครั้ง และชื่อ Maboroshi นี้เองก็เป็นเพียงชื่อภาพยนตร์สำหรับฉายในต่างประเทศเท่านั้น ส่วนชื่อภาพยนตร์สำหรับออกฉายในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีชื่อว่า “Alice to Therese no Maboroshi Koujou” ส่วนเหตุผลที่ชื่อมันยาว แถมยังจำค่อนข้างยากขนาดนี้ก็มีเหตุผลแฝงอยู่นะ
@maboroshi_2023
แต่ก่อนอื่นเราไปทำความรู้จักกับเรื่อง Maboroshi กันก่อนสักเล็กน้อยดีกว่า
เรื่องย่อ Maboroshi จากทาง Netflix
เหตุระเบิดในโรงงานทำให้เมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งกลายเป็นน้ำแข็งที่อยู่เหนือกาลเวลา มาซามุเนะวัย 14 ปี และเพื่อนๆ จึงพยายามรับมือกับความเป็นจริงที่ล่มสลายลงอย่างรวดเร็ว
@maboroshi_2023
ผนึกกำลังสตูดิโอ MAPPA และผู้กำกับ Mari Okada
ทีมงานที่เรียกได้ว่ายกมาแต่บุคลากรระดับเทพ อย่างผู้กำกับ Mari Okada เจ้าของผลงาน Sayonara no Asa ni Yakusoku no Hana wo Kazarou หรือ ซาโยอาสะ สัญญาของเราในวันนั้น ซึ่งเธอทำหน้าที่เป็นผู้กำกับและเขียนบทภาพยนตร์ด้วยตนเองเหมือนกับ Maboroshi
Sayonara no Asa ni Yakusoku no Hana wo Kazarou หรือ ซาโยอาสะ สัญญาของเราในวันนั้น
ส่วนสตูดิโอ MAPPA นั้นคงไม่ต้องเกริ่นอะไรมากมายในด้านผลงาน เพราะตอนนี้ MAPPA แทบจะกลายเป็นสตูดิโอคู่บุญของสำนักพิมพ์การ์ตูนค่ายยักษ์ใหญ่อย่างชูเอย์ฉะหรือที่เรารู้จักกันในฐานะเจ้าของการ์ตูน JUMP ชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น Chainsaw Man ที่เพิ่งประกาศฉบับภาพยนตร์ไปหมาดๆ และ Jujutsu Kaisen มหาเวทย์ผนึกมาร
Jujutsu Kaisen มหาเวทย์ผนึกมาร
นอกจากนี้ Maboroshi หรือ Alice to Therese no Maboroshi Koujou ยังถือเป็นภาพยนตร์ออริจินัลเรื่องแรกของทางสตูดิโอ MAPPA อีกด้วย
เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่?---World Building ที่น่าสนใจของ Maboroshi
เหตุการณ์ระเบิดที่โรงงานถลุงเหล็กทำให้เมืองมิฟุเสะกลายเป็นเขตแดนปิดตายที่กาลเวลาและฤดูกาลได้หยุดลงอย่างถาวร ชาวเมืองถูกสั่งห้ามไม่ให้สร้างความเปลี่ยนแปลงใดๆ ห้ามตกหลุมรัก ห้ามเริ่มวาดฝันที่แตกต่างออกไปจากเดิม…ภายใต้กฎที่ฟังดูไร้เหตุผล ก็ได้มีเหตุการณ์ประหลาดอีกหนึ่งเหตุการณ์ปรากฏขึ้น นั่นก็คือสายลมที่มีรูปร่างเหมือนกับ “หมาป่า” ซึ่งพุ่งเข้าหาชาวเมืองมิฟุเสะก่อนจะหายขึ้นไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยรอยแตกร้าวอย่างเป็นปริศนา
@maboroshi_2023
ต้องยอมรับเลยว่าแม้ Maboroshi จะเปิดเรื่องมาพร้อมกับปริศนามากมายที่อาจสร้างความกังวลใจให้กับเหล่าผู้ชมว่าจะเฉลยปริศนาทั้งหมดได้ภายในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมงหรือไม่ แต่วิธีการเล่าเรื่องและเฉลยที่มาที่ไปของเหตุการณ์ประหลาดทั้งหลายนั้นเรียกได้ว่าใส่มาค่อนข้างถูกที่ ถูกเวลา แถมยังพอเหลือพื้นที่ให้ผู้ชมสามารถตีความสัญญะต่างๆ ในเรื่องได้อีกทอดหนึ่งอีกต่างหาก
Hope is a waking dream—ความหวังคือความฝันขณะตื่น
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือมีการนำปรัชญาของนักปราชญ์ชาวกรีกที่คงไม่มีใครไม่รู้จักอย่างอริสโตเติล (Aristotle) มาใช้บอกเล่าแทนความปรารถนาที่อยากจะหลุดพ้นไปจากเมืองมิฟุเสะ และทำงานเป็นนักวาดภาพประกอบของตัวละครเอกอย่างมาซามุเนะ ซึ่งเขานั้นก็ถูกสั่งห้าม “ไม่ให้สร้างความเปลี่ยนแปลง” ใดๆ เหมือนกับคนอื่นๆ
@maboroshi_2023
แต่สุดท้ายมาซามุเนะก็ไม่อาจเลิกล้มความตั้งใจไปได้ จึงนำพาไปสู่เหตุการณ์ซึ่งจะเฉลยความจริงเกี่ยวกับโลกประหลาดแห่งนี้ในที่สุด…
สรุปความดีงามของ Maboroshi
หากจะให้สรุปสั้นๆ แล้ว Maboroshi ก็คือภาพยนตร์ที่จะรับชมเพื่อความบันเทิงก็ดี แต่หากต้องการจะเข้าใจโลกประหลาดแห่งนี้มากขึ้น ผู้ชมก็สามารถวิเคราะห์สัญญะต่างๆ ได้อย่างอิสระเช่นกัน ซึ่งส่วนตัวแล้วน้องนกค่อนข้างเอนจอยกับภาพยนตร์เรื่องนี้มากๆ โดยเฉพาะ World Building ที่มีกลิ่นอายระหว่างความเป็นไซไฟและเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ ส่วนในพาร์ตโรแมนติกนั้นต้องบอกว่า…น้องนกดันไปชอบของแถมที่ติดมามากกว่า (ฮา) ว่าแล้วก็อย่าลืมไปพิสูจน์ผลงานเรื่องนี้ได้บนแอปสตรีมมิ่ง Netflix
@maboroshi_2023
นิยายฉบับแปลภาษาไทยมีลิขสิทธิ์เรียบร้อยแล้วโดยสำนักพิมพ์ PHOENIX
อย่าลืม!!! มาสะสมยอดสั่งซื้อบนเว็บไซต์ PHOENIX เพื่อรับส่วนลดและสิทธิพิเศษมากมาย!
อ่าน สิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิกเว็บไซต์ PHOENIX