เจาะทฤษฎีควอนตัมกับการหายตัวของรุ่นพี่บันนี่เกิร์ล

คุณจะทำอย่างไรหากจู่ๆก็มีสาวสวยในชุดบันนี่เกิร์ลอยู่ต่อหน้าคุณ แถมยังเป็นที่สาธารณะอีกด้วย คุณคงคิดเป็นอย่างแรกว่า “ยัยผู้หญิงคนนี้ไม่มียางอายบ้างรึไง?” แต่ไม่ใช่เธอไม่อายแต่ไม่มีใครเห็นเธอนอกจากคุณต่างหาก!

 

นั่นเป็นพล็อตเรื่องของการ์ตูนเรื่อง เรื่องฝันปั่นป่วยของผมกับรุ่นพี่บันนี่เกิร์ล Seishun Buta Yarou wa Bunny Girl Senpai no Yume wo Minai เรื่องราวประหลาดที่ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์มาอธิบาย วันนี้พี่นกจะพาไปชำแหละว่าเพราะเหตุใดจึงไม่มีใครมองเห็นรุ่นพี่บันนี่เกิร์ล

ในการ์ตูนจะมีตัวละครหญิงคนนึงนาม ฟุตาบะ ริโอะ ผู้จะมาอธิบายหลักวิทยาศาสตร์ในชุดกาวน์ ราวกับว่าเธอเป็นนักวิทย์แต่จริงๆแล้วเธอก็เป็นนักเรียนมอปลายคนหนึ่งที่ฉลาดมากๆแค่นั้นเอง เธอได้อธิบายว่าเหตุการณ์ที่รุ่นพี่บันนี่เกิร์ล ไม่มีตัวตนในสายตาคนอื่นเป็นเพราะปรากฎการณ์ แมวของชเรอดิงเงอร์ (Schrödinger's cat) ที่เปรียบรุ่นพี่บันนี่เกิร์ลเป็นแมวในกล่องทดลองที่มีกำมันรังสี และมีฐานะเป็นและตาย 50% เท่ากัน



คิดว่าคนที่อ่านมาถึงตอนนี้คงจะงงว่าการทดลองนี้มันเกี่ยวอะไรกับการ์ตูนเรื่องนี้ ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าการ์ตูนนั้นแค่หยิบคอนเซปของหลักกลศาสตร์ควอนตัมมาใช้อธิบาย และการที่จะทำความเข้าใจว่ารุ่นพี่หายไปได้อย่างไร ต้องเข้าใจหลักกลศาสตร์ควอนตัมซะก่อน

 

หลักกลศาสตร์ควอนตัมไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างไร เพราะถูกพูดถึงมาตั้งแต่ปี 1900 โดยมัคส์ พลังค์ และต่อมาก็ถูกต่อยอดโดย Heisenberg และ Schrödinger ซึ่งหลักง่ายๆของกลศาสตร์ควอนตัมก็คือความน่าจะเป็น

 

พูดง่ายๆก็คือทุกสรรพสิ่งบนจักรวาลไม่มีอะไรที่เป็นสิ่งที่กำหนดหรือถูกกำหนด แต่ล้วนประกอบจากความน่าจะเป็นของอนุภาคเล็กๆ

 

ทฤษฎีนี้สร้างความกำหมัดให้กับ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein) เป็นอย่างมาก เพราะไอน์สไตน์คิดในทางตรงกันข้ามว่าเราสามารถหา รวมถึงทำนายตำแหน่ง หาความเร็วของอนุภาคควอนตัมได้ (ขัดกับหลักความไม่แน่นอนของไฮเซนเบิร์ก) และที่กำหมัดไปยิ่งกว่านั้นคือทฤษฎีการพัวพันเชิงควอนตัม (Quantum Entanglement) ได้กล่าวว่าเมื่ออนุภาคพัวพันกันแล้ว ต่อให้แยกออกไปหมื่นล้านปีแสง ก็จะมีสถานะตรงกันข้ามเสมอ เมื่ออนุภาคหนึ่งถูกค้นพบว่าเป็น Up อีกอนุภาคจะกลายเป็น Down ทันที และที่ไอน์สไตน์ไม่ปลื้มกับทฤษฎีนี้เพราะคำว่า “ทันที” นี่แหละ มันไปขัดแย้งกับทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษที่กล่าวว่าไม่มีอะไรเร็วกว่าแสง

แล้วคุณคิดว่าใครคิดถูกระหว่าง ไอน์สไตน์ กับกลศาสตร์ควอนตัม เดี๋ยวจะมาเฉลยตอนท้าย เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า เมื่อข้างต้นได้เกริ่นเรื่อง การพัวพันเชิงควอนตัม และ หลักความไม่แน่นอนของไฮเซนเบิร์ก ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเรื่องนี้แหละจะมาอธิบายว่าทำไมรุ่นพี่ถึงหายไป

 

ตอนนี้เรารู้แล้วว่าอนุภาคควอนตัมไม่แน่นอน พัวพันได้ อีกหนึ่งคุณสมบัติของมันก็คือ ซ้อนทับกันได้ (quantum superposition) กล่าวก็คือสามารถมีสองสถานะได้พร้อมกันเปรียบกับแมวของชเรอดิงเงอร์นั่นแหละว่าเมื่ออยู่ในกล่องแล้วสามารถมีได้ทั้งสถานะเป็นและตายในเวลาเดียวกันจนกว่าจะเปิดกล่อง

 

อนุภาคสามารถมีสองสถานะทับซ้อนกันจนกว่าเราจะตรวจพบมัน


แล้วรุ่นพี่คือแมวเหรอที่มีสถานะเป็นและตายเหมือนแมว คำตอบคืออาจจะใช่หรือไม่เกี่ยวกันเลย แมวของชเรอดิงเงอร์เป็นแค่การทดลองในจินตนาการเพื่อให้เข้าใจถึงคุณสมบัติ superposition และนำไปสู่การอธิบายว่าแสง (โฟตอน) สามารถเป็นคลื่นและอนุภาคในเวลาเดียวกันได้ ถ้าจะใช้คำอธิบายนี้อาจจะต้องนำไปสู่ทฤษฎีโลกคู่ขนาน ที่รุ่นพี่อาจถูกพัวพันควอนตัม จนมีสถานะ superposition กับมิติความเป็นจริงอื่นๆ ทำให้ตัวตนในโลกนี้หายไป (เหมือน Ghost ในหนังเรื่อง Ant-Man and the Wasp)

 

อ่าว แล้วรุ่นพี่หายไปได้ไง? อันนี้ส่วนตัวพี่นกคิดว่าเป็นผลมาจากหลักความไม่แน่นอนของไฮเซนเบิร์กครับ ที่กล่าวว่าเราไม่สามารถรู้ตำแหน่งและความเร็วของอนุภาคในเวลาเดียวกันได้อย่างแม่นยำ มีสูตรสั้นๆง่ายๆ ΔpΔx≥h/4π

 

“เราไม่สามารถรู้ตำแหน่งและความเร็วของอนุภาคในเวลาเดียวกันได้อย่างแม่นยำ”

 

และเพื่อที่จะทำให้รุ่นพี่หายไป หรือหาไม่เจอ เราก็ต้องทำให้ Δx มีค่ามากๆนั่นเอง และวิธีทำให้  Δx น้อยๆก็คือให้ Δp รุ่นพี่มีค่าน้อยๆ หรือลดโมเมนตั้มให้รุ่นพี่นั่นเอง

 

สมมุติให้รุ่นพี่อยู่ในมิติควอนตัม สามารถวัดตำแหน่งคลาดเคลื่อนได้ 10 เมตร (ในรัศมี 10 เมตรจะมองหารุ่นพี่ยาก) จะต้องใช้ค่า Δp เท่ากับ 5.2786624e-36 kg-m/s และถ้าให้รุ่นพี่มีน้ำหนัก 40 kg รุ่นพี่ก็จะต้องเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 1.3196656e-37 m/s หรือก็คือแทบจะต้องไม่เคลื่อนไหวนั่นเอง (นิ่งแบบ Drax ใน Avengers Infinity War) 

 

อย่างไรก็ดีการ์ตูนก็คือการ์ตูน เหตุผลที่แท้จริงอาจเป็นเพราะปรากฎการณ์เหนือกฎฟิสิกส์ปัจจุบันก็ได้ ในเรื่องฝันปั่นป่วย (Seishun Buta Yarou) ยังมีการอ้างอิงถึงหลักวิทยาศาสตร์อีกหลายอย่าง หากชอบบทความแนวนี้ก็กดแชร์ หรือคอมเม้นท์ไว้ข้างล่างแลกเปลี่ยนความเห็นกันได้ บางอย่างที่หยิบยกมาก็อาจไม่ถูกต้อง 100% ก็ต้องขออภัยเอาไว้ล่วงหน้า คิดซะว่าอ่านเพื่อความบันเทิงละกัน

 

สุดท้ายนี้ติดค้างคำถามที่ว่าแล้วไอน์สไตน์ หรือกลศาสตร์ควอนตัม ใครถูกต้องเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ของจักรวาลนี้ คำตอบก็คือ กลศาสตร์ควอนตัมถูกครับ หลังจากทฤษฎีควอนตัมมากมายที่ถูกคิดในอดีต ปัจจุบันเราสามารถทดลองได้แล้วว่าอนุภาคคือความน่าจะเป็น ดังนั้นเวลาเกิดเรื่องดีหรือร้ายก็อย่าไปโทษโชคชะตาครับ มันไม่มีอะไรที่กำหนด มีแต่ความน่าจะเป็นเท่านั้น